การเสียภาษีป้ายโฆษณาแบบต่างๆ

         ภาษีป้ายเป็นภาษีอีกประเภทหนึ่งที่ทุกคนควรจะรู้โดยเฉพาะอย่างยิ่งร้านทำป้ายควรแนะนำข้อมูลเกี่ยวกับภาษีต่อลูกค้าซึ่งผมเชื่อว่ามีคนจำนวนไม่น้อยยังไม่ทราบโดยชัดเจนผมจึงได้รวบรวมมาเพื่อเป็นข้อมูลอ้างอิงในโอกาสต่อๆไปนะครับ

         ภาษีป้ายหมายถึงภาษีที่เก็บจากป้ายแสดงชื่อยี่ห้อหรือเครื่องหมายที่ใช้ในการประกอบการค้าหรือประกอบกิจการอื่นๆเพื่อหารายได้หรือโฆษณาการค้าหรือกิจการอื่นเพื่อหารายได้ไม่ว่าจะแสดงหรือโฆษณาไว้ที่วัตถุใดๆด้วยอักษรภาพหรือเครื่องหมายที่เขียนแกะสลักจารึกหรือทำให้ปรากฏด้วยวิธีอื่น

         ผู้มีหน้าที่เสียภาษีป้ายคือเจ้าของป้ายหรือผู้ครอบครองป้ายในกรณีไม่มีผู้อื่นยื่นแบบแสดงรายการภาษีป้ายหรือเมื่อพนักงานเจ้าหน้าที่ไม่อาจหาตัวเจ้าของป้ายนั้นได้ให้ถือว่าผู้ครอบครองป้ายนั้นเป็นผู้มีหน้าที่เสียภาษีป้ายถ้าไม่อาจหาตัวผู้ครอบครองป้ายนั้นได้ให้ถือว่าเจ้าของหรือผู้ครอบครองอาคารหรือที่ดินที่ที่ป้ายนั้นตั้งติดตั้งหรือแสดงอยู่เป็นผู้มีหน้าที่เสียภาษีป้ายตามลำดับ

อัตราภาษีป้าย

1. ป้ายที่มีอักษรไทยล้วนคิดภาษี 500 ตารางเซ็นต่อ 3 บาท

2. ป้ายที่มีอักษรไทยปนกับอังกฤษต่างประเทศหรือปนกับภาพและหรือเครื่องหมายคิดภาษี 500 ตารางเซนต่อ 20 บาท

3. (ก) ป้ายที่ไม่มีอักษรไทยไม่ว่าจะมีภาพหรือเครื่องหมายใดๆ (ข) ป้ายที่มีอักษรทั้งหมดหรือบางส่วนอยู่ใต้และหรืออยู่ต่ำกว่าอักษรต่างประเทศคิดภาษี 500 ตารางเซนต่อ 40 บาท ป้ายเมื่อคำนวณพื้นที่จำนวนเงินภาษีไม่ถึงป้ายละ 200 บาทให้เสียภาษีป้ายละ 200 บาท

การขออนุญาตติดตั้งป้ายหรือเสียภาษี 

1. ให้เจ้าของป้ายหรือผู้มีอำนาจที่เสียภาษีป้ายแจ้งขนาดและยื่นภาพถ่ายหรือภาพสเก็ตของป้ายและแผนผังบริเวณที่ติดตั้งป้ายนั้นมาพร้อมกับคำขออนุญาตติดตั้งป้ายหรือแบบแสดงรายการภาษีป้ายแล้วแต่กรณีเพื่อประโยชน์ในการสำรวจตรวจสอบ

2. ในการติดตั้งป้ายต้องไม่มีลักษณะที่จะเป็นอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนและบริเวณที่ไม่อนุญาตให้ติดตั้งป้ายได้แก่บริเวณค่อมถนนหรือทางสาธารณะ วงเวียนอนุสาวรีย์ สะพานลอย คนเดินข้ามถนน เกาะกลางถนน สวนหย่อม สวนสาธารณะ ถนนต้นไม้และเสาไฟฟ้าซึ่งอยู่ในที่สาธารณะ

หลักฐานที่ต้องนำไป

1. บัตรประจำตัวประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน

2. ทะเบียน ภาษีมูลค่าเพิ่ม หนังสือรับรองห้างหุ้นส่วนหรือบริษัท

3. ใบเสร็จรับเงินปีที่แล้ว

กำหนดเวลายื่น

เจ้าของป้ายยื่นแบบแสดงรายการภาษีป้ายและชำระภาษีป้ายภายในเดือ มีนาคม ของทุกปี

เจ้าของป้ายต้องยื่นแบบแสดงรายการเสียภาษีภายใน 15 วันนับตั้งแต่

1. มีป้ายต้องเสียภาษีป้ายภายหลังเดือนมีนาคม

2. มีป้ายใหม่แทนป้ายเดิมที่เสียภาษีป้ายแล้ว

3. เปลี่ยนแปลงแก้ไขป้ายเดิมเป็นเหตุให้เสียภาษีป้ายหรือภาษีป้ายเพิ่มขึ้นผู้รับโอนป้ายแจ้งการรับโอนป้ายภายใน 30 วันนับตั้งแต่วันรับโอนป้าย

การชำระภาษี

ให้เจ้าของป้ายชำระภาษีป้ายภายใน 15 วันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งการประเมิน

ป้ายที่เริ่มติดตั้งหรือแสดงในปีแรกให้เสียภาษีป้ายตั้งแต่วันที่ติดตั้งหรือแสดงจนถึงวันสิ้นปีถ้าภาษีป้ายเกิน 3,000 บาทขึ้นไปผ่อนชำระเป็น 3 งวดงวดละเท่าๆกันก็ได้

บทกำหนดโทษ

1. ผู้ใดจงใจไม่ยื่นแบบแสดงรายการภาษีป้ายต้องระวางโทษปรับตั้งแต่ 5,000 บาทถึง 50,000 บาท

2. ผู้ใดโดยรู้หรือจงใจแจ้งข้อความเท็จให้ถ้อยคำเท็จหรือพยายามหลีกเลี่ยงภาษีป้ายต้องระวังโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปีหรือปรับตั้งแต่ 5,000 บาทถึง 50,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ

3. ผู้ใดไม่แจ้งรับโอนป้ายหรือไม่แสดงรายการเสียภาษีป้ายไว้ ณ ที่เปิดเผยในสถานที่ประกอบกิจการต้องระวังโทษปรับตั้งแต่ 1,000 บาทถึง 10,000 บาทระยะเวลาการให้บริการโดยประมาณ 10 นาทีต่อลาย ไม่รวมขั้นตอนการตรวจสอบสอบสวน (ถ้ามี)

เพิ่มเติมนะครับผมจะยก ตัวอย่าง ป้ายแต่ละประเภท

เพื่อให้เข้าใจมากยิ่งขึ้น

ป้ายประเภทที่ 1. คือมีแต่ตัวอักษรภาษาไทยไม่มีภาษาอังกฤษหรือภาพใดๆเข้ามาปะปน (ไม่นับ ช. T.M. เพราะเวลาคิดภาษีให้คิดเป็นพื้นที่ในส่วนสีเหลืองต่างหากเนื่องจากถูกจำกัดแค่ภาษาไทยป้ายประเภทนี้จึงถูกจำกัดในการออกแบบป้ายประเภทนี้ให้คำนวณภาษี 500 ตารางเซนต่อ 3 บาท

ป้ายประเภทที่ 2. คือมีภาษาไทยและสามารถใส่รูปภาพและภาษาอื่นๆได้แต่ภาษาไทยต้องอยู่บนสุดไม่อยู่ต่ำกว่าภาษาอื่นๆแม้นว่าจะมีภาษาไทยกำกับอยู่บนสุดก็ตามป้ายประเภทนี้เป็นที่นิยมกันมากโดยเฉพาะบิลบอร์ดใหญ่ๆสังเกตว่าเขาใส่ตัวโลโก้ที่เป็นภาษาอังกฤษไว้มุมขวาล่างป้ายประเภทนี้ให้คำนวณภาษี 500 ตารางเซนต่อ 20 บาท

ป้ายประเภทที่ 3. คือป้ายที่ไม่มีอักษรไทยหรือมีอักษรภาษาอื่นๆอยู่เหนือภาษาไทยอันนี้เสียภาษีโหดสุดครับ ผู้ประกอบการต่างๆจึงหลีกเลี่ยงป้ายประเภทนี้ครับ สังเกตว่างานพื้นที่ใหญ่ๆจะไม่มีป้ายประเภทนี้ครับ ฉะนั้นออกแบบควรอธิบายให้ลูกค้าเข้าใจในเรื่องนี้นะครับเวลาออกแบบก็ควรระมัดระวังให้มากครับเพราะโดนแต่ละที "อ่วม"ครับ ป้ายประเภทนี้ให้คำนวณภาษี 500 ตารางเซนต่อ 40 บาท